วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557
วันพุธที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2556
โครงสร้างที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนแก๊สของคน
อากาศเข้าสู่ปอดโดยเริ่มเข้าที่ช่องจมูก แล้วเข้าสู่บริเวณโพรงจมูกซึ่งมีเยื่อบุผิวที่มีซิเลียและเมือกสำหรับดักจับสิ่งสกปรกไว้
อากาศจะเคลื่อนที่ต่อไปยังคอหอยลงสู่กล่องเสียง ซึ่งภายในมี สายเสียง (vocal cord) จากนั้นอากาศจึงเข้าสู่หลอดลม ปลายสุดของหลอดลมแยกออกเป็นขั้วปอดแยกไปสู่ปอดซ้ายและขวาทั้ง
2 ข้างซึ่งจะแตกแขนงเล็กลงเรื่อยๆ เรียกว่า หลอดลมฝอย (bronchiole) ผนังของหลอดลมฝอยจะบางลงตามลำดับ
ปลายสุดของหลอดสมฝอยเป็นถุงขนาดเล็ก และหลอดลมฝอยส่วนต้นประกอบด้วยกระดูกอ่อน เพื่อป้องกันการแฟบจากแรงกดของเนื้อเยื่อบริเวณรอบๆ ดังภาพที่ 6-8
ภาพที่ 6-8
ก. ส่วนต่างๆของทางเดินหายใจ ,
ข.ถุงลม
ผนัง
ด้านในของหลอดลมบุด้วยเซลล์บุผิวที่มีซิเลียและเซลล์ซึ่งทำหน้าที่สร้าง
เมือกเพื่อคอยดักจับสิ่งสกปรกไม่ให้เข้าไปถึงถุงลม
เมื่ออากาศเข้าสู่ถุงลมซึ่งมีหลอดเลือดฝอยห่อหุ้มอยู่โดยรอบบริเวณนี้จะมี
การแลกเปลี่ยนแก๊สเกิดขึ้นเป็นตำแหน่งแรก โดยแก๊สออกซิเจนจากถุงลมจะแพร่เข้าสู่หลอดเลือดฝอย
และแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์จากหลอดเลือดฝอยจะแพร่เข้าสู่ถุงลม
การสูดลมหายใจ
เพื่อรักษาดุลยภาพของแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์และแก๊สออกซิเจนในร่างกายคน
จึงมีการสูดลมหายใจเข้าและลมหายใจออกตลอดเวลา แสดงว่าความดันของอากาศภายในปอดมีการเปลี่ยนแปลง ในการหายใจเข้าและการหายใจออกเกิดจากการเปลี่ยนแปลงความดันของอากาศภายในปอด
โดยการทำงานร่วมกันของกล้ามเนื้อกะบังลม และกล้ามเนื้อที่ยึดกระดูกซี่โครงแถบนอก ดังภาพที่
6-9 ขณะที่กล้ามเนื้อหน้าท้องคลายตัว ทำให้อากาศภายในช่องท้องลดความดันลงพร้อมๆ กับกล้ามเนื้อหะบังลมหดตัว
กะบังลมจะเคลื่อนต่ำลง ขณะที่กล้ามเนื้อของกระดูกซี่โครงแถบนอกหดตัว
กระดูกซี่โครงยกสูงขึ้น ปริมาตรในช่องออกเพิ่มขึ้น
ปอดที่มีเนื้อเยื่อยืดหยุ่นได้ก็จะขยายมากขึ้น ความดันของอากาศภายในปอดลดลง อากาศภายนอกจะไหลเข้าสู่ปอด
ทำให้เกิดการหายใจเข้า ดังภาพที่ 6-9
ก. และเมื่อกล้ามเนื้อหน้าท้องหดตัว
ทำให้อากาศภายในช่องท้องมีความดันมากขึ้นพร้อมๆ กับกล้ามเนื้อกะบังลมคลายตัว กะบังลมโค้งขึ้น
หรือเคลื่อนที่ขึ้นด้านบนมากขึ้น ในขณะเดียวกันกล้ามเนื้อแถบนอกของกระดูกซี่โครงคลายตัว
ทำให้กระดูกซี่โครงลดต่ำลง ปริมาตรของอากาศภายในช่องอกลดลง
ส่งผลให้ปริมาตรของอากาศในปอดลดลง ความดันอากาศในปอดจะมีมากกว่าความดันอากาศภายนอก
อากาศจะเคลื่อนจากปอดสู่ภายนอก ทำให้เกิดการหายใจออก
ดังภาพที่ 6-9 ข.อ่านต่อ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)